วิสาขบูชา
22 พฤษภาคม 2548
นับเป็นปริศนาธรรมอันยิ่งใหญ่ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดง ให้ปรากฏ แก่ชาวโลก ถึง ๓ เหตุการณ์ ในวาระ อันตรงกัน คือ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ซึ่งเป็นการตอกย้ำ ความชัดเจน แห่งแผนผัง ของสรรพชีวิต ที่จักดำเนิน ไปสู่สันติสุข ที่แท้จริงได้อย่างไร โดย เมื่อครั้งที่ พระพุทธองค์ ประสูติ ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี พระองค์ ทรงอุบัติขึ้น ด้วย "รูปกาย" จาก พระครรภ์ ของ พระนางสิริมหามายา อันสมบูรณ์ ด้วยลักษณะ แห่งมหาบุรุษ ที่ไม่มี บุรุษใด จะเทียบเทียมได้ ต่อมา เมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี พระพุทธองค์ ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ นับเป็นการเกิดใหม่ อีกครั้งหนึ่ง นั่นคือ เกิดด้วย "ธรรมกาย" เพราะธรรมกาย เป็นกาย แห่งการ ตรัสรู้ธรรม และเมื่อพระองค์ เสด็จ ดับขันธปรินิพพาน ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา พระองค์ ได้ทรง สละรูปกาย เหลือแต่ "ธรรมกาย" ซึ่งเป็น กายที่แท้อันบริสุทธิ์ หมดจด จากอาสวกิเลส ทั้งหลาย เข้าสู่ สันติสุข อันแท้จริง คือ อายตนนิพพาน ปรากฏการณ์ อันน่ามหัศจรรย์ ได้เป็น คติธรรม สอนใจ ให้มวลมนุษยชาติ ทั้งหลายที่ทุกคน ต่างมี "รูปกาย" ให้รู้จักใช้รูปกายนี้ ประพฤติ ปฏิบัติ ให้เข้าถึง "ธรรมกาย" เพราะวาระสุดท้าย แห่งทุกๆ ชีวิต "ธรรมกาย" เท่านั้น ที่จะนำ ไปสู่ ที่สุดแห่งธรรมได้
วิสาขบูชา จึงเป็น "วันแห่งธรรมกาย" ที่แสดง ให้เห็น แบบอย่าง แห่ง เส้นทางชีวิต อันประเสริฐ ที่เรา ทั้งหลาย จักดำเนินไป เพื่อไปสู่เป้าหมาย อันสูงส่ง ของการ เกิดมา มีชีวิต ท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เราทั้งหลาย นับว่า เป็นผู้มีโชค อันมหาศาล ที่ได้เกิดมาพบ พระพุทธศาสนา ได้มีโอกาส ประพฤติ ปฏิบัติธรรม เจริญตามรอยบาท พระบรมศาสดา
ดังนั้น ในวันวิสาขบูชานี้ เราจะได้มาน้อมรำลึกถึง พระคุณอันยิ่งใหญ่ ของพระพุทธองค์ ตระหนัก ในคุณค่า ของพระรัตนตรัย เพื่อที่เรา จะได้น้อม เอาแสงธรรม นำชีวิต ดุจน้อม แสงแห่งดวงจันทร์ ที่แจ่มจรัส บนผืนฟ้า เบื้องบน เป็นแสงสว่าง นำทางชีวิต ไปสู่ทิศที่ดีงาม ร่วมใจกัน ทำความดี รักษาศีล เจริญภาวนา และ หมั่นเพียร ในการประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นแบบอย่าง แห่งการ ประพฤติ ปฏิบัติ ของอนุชน รุ่นหลัง ให้ยึดถือ เป็นแบบอย่าง แห่งความ เป็นพุทธศาสนิกชน มุ่งทำนุบำรุง พระพุทธศาสนา บำเพ็ญตนเป็นพุทธมามกะ มุ่งจรรโลง และสืบต่ออายุพระศาสนา ให้ยืนยาวนานตลอดไป