วันแม่แห่งชาติ
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2564
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2565 ความว่า
- พระคุณแม่ยิ่งใหญ่เกินใดเปรียบ
- จะหาใครมาเทียบยากจักหา
- ประพฤติดีด้วยใจกายวาจา
- ประกาศคุณมารดาต่อแผ่นดิน
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แจ้งว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2564 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ความว่า
- รักเอยรักแม่
- ลูกทดแทนรักแท้ที่แม่ให้
- เร่งพากเพียรทำดีด้วยหัวใจ
- ประกาศคุณแม่ไว้ในแผ่นดิน
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2563
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2563 ความว่า
- รักเอยรักลูก
- แม่จึงปลูกคุณธรรมให้รักษา
- รดความรักพรวนความดีมีเมตตา
- ลูกเติบใหญ่แทนคุณค่าของแผ่นดิน
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2562
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ พุทธศักราช 2562 ความว่า
- เพราะรักลูกมากกว่าใครในโลกหล้า
- เพราะพระคุณเลิศล้ำฟ้าจะหาไหน
- เพราะสอนให้ประพฤติดีทั้งกายใจ
- ลูกจึงรักแม่กว่าใครทดแทนคุณ
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2561
วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2561 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แจ้งว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2561 ความว่า
- เมื่อเรารวมกำลังกันทั้งชาติ
- ย่อมสามารถช่วยไทยไขปัญหา
- ผนึกแรงหลอมรวมร่วมปัญญา
- จักนำพาชาติตนรอดพ้นภัย
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2560
- สอนให้ลูก เรียนรู้ สู้ปัญหา
- พัฒนา ด้วยตน จนเติบใหญ่
- เพราะคนแกร่ง จะก้าว ได้ยาวไกล
- เพื่อมาเป็น กำลังไทย ให้แข็งแรง
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี พ.ศ.2560 ความว่า...
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2559
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี พ.ศ.2559 ความว่า...
- สอนให้ลูกทั้งหลายเดินสายกลาง
- ทำทุกอย่างพอดีมีเหตุผล
- ประกอบด้วยคุณธรรมนำทางตน
- ย่อมได้คนดีพอต่อบ้านเมือง
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2558
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี พ.ศ.2558 ความว่า...
- ดินและน้ำ ลมและฟ้า ป่าและเขา
- รวมกันเข้าคือทรัพย์สินแผ่นดินแม่
- ฝากลูกไทยรวมใจภักดิ์รักดูแล
- เพื่อมอบแก่หลานเหลนไทยไปชั่วกาล"
คำขวัญวันแม่ ปี พ.ศ.2557
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี พ.ศ.2557 เพื่ออัญเชิญลงหนังสือวันแม่แห่งชาติ ปี พ.ศ.2557 ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ความว่า...
- รักเรียน รู้งานถนอมบ้านเมืองไทย
- ร่วมใจสามัคคีคือ ลูกที่ดีของแม่
ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติ
ในปี ค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) แอนนา เอ็ม. จาร์วิส ครูแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา ใช้เวลา 2 ปี พยายามเรียกร้องให้มีวันแม่ในอเมริกา โดย ประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือเอาวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันแม่แห่งชาติ ดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกัน คือ ดอกคาร์เนชั่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ กล่าวคือ ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้าน หรือประตู ด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว
สำหรับประเทศไทย ได้มีการจัดงานวันแม่เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2486 ณ สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่เนื่องจากช่วงเวลานั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ.2482 - พ.ศ.2488) การจัดงานในปีต่อมาจึงต้องงดไป ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง มีความพยายามที่จะรื้อฟื้นให้มีวันแม่ขึ้นอีกจากหลายหน่วยงาน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร อีกทั้งมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่หลายครั้ง
กำหนดวันแม่ซึ่งเป็นที่นิยมของประชาชน และเป็นที่รับรองของรัฐบาล คือ วันที่ 15 เมษายน ซึ่งเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 เป็นครั้งแรก โดยสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้รับความสำเร็จด้วยดี ประชาชนต่างให้การสนับสนุน สามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างขวางออกไปได้ ในงานมีการจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา และกิจกรรมต่างๆ อาทิ การประกวดคำขวัญวันแม่, การประกวดเรียงความวันแม่, การประกวดแม่ของชาติ เพื่อให้เกียรติและตระหนักในความสำคัญของแม่ ด้วยเหตุนี้งานวันแม่ จึงเป็น “วันแม่” ประจำปีของชาติ ตามประกาศของรัฐบาลในสมัยนั้น (จอมพล ป.พิบูลสงคราม) โดยทั่วไปเรียกกันว่า “วันแม่ของชาติ” กำหนดงานวันแม่ในวันที่ 15 เมษายน ยังดำเนินต่อกันมาอีกหลายปี จนกระทั่งต้องหยุดชะงักลงเมื่อกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานได้ถูกยุบไป
ในปี พ.ศ.2515 สมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้รื้อฟื้นงานวันแม่ขึ้นมาอีก โดยกำหนดให้จัดงานวันแม่ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวก็เลิกไป จนมาถึงปี พ.ศ.2519 คณะกรรมการอำนวยการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เห็นว่าควรกำหนดวันแม่ให้แน่นอน จึงได้กำหนดวันแม่ใหม่ โดยให้ถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม เป็น “วันแม่แห่งชาติ” และกำหนดให้ “ดอกมะลิ” เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พระคุณของแม่และการตอบแทนพระคุณแม่
ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ วัดเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี ได้ตรัสถึงการตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ที่ได้ผลอย่างแท้จริง และถูกต้องตามหลักศาสนา ความว่า...
ภิกษุทั้งหลาย บุตรยกมารดาบิดาขึ้นวางไว้บนบ่าทั้งสองข้าง ปฏิบัติท่านทั้งสองด้วยการอบกลิ่น นวด อานน้ำ ท่านทั้งสองได้ถ่ายอุจจาระและปัสสาวะอยู่บนบ่าบุตรนั้นตลอดร้อยปี แม้อย่างนั้น ก็ยังไม่ชื่อว่าได้ตอบแทนคุณของมารดาบิดาได้เลย... ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาไว้ในราชสมบัติในแผ่นดินใหญ่ มีแก้วเจ็ดประการ แม้อย่างนั้น ก็ยังไม่ได้ชื่อว่า บุตรได้ตอบแทนคุณของมารดาบิดาได้เลย เพราะว่ามารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย ส่วนบุตรคนใด ทำมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้มีศรัทธามั่นคง ทำมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้ตั้งมั่นอยู่ในศีล ทำมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้มีการบริจาคทานเป็นนิจ ทำมารดาบิดาผู้ไม่มีปัญญา ให้มีปัญญาเป็นเครื่องนำทางที่ถูกต้องได้ ภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุการตอบแทน 4 ประการนี้ ชื่อว่าบุตรได้ตอบแทนพระคุณของมารดาบิดาแล้ว
รับชมมิวสิควิดีโอ "แค่สักครึ่งหนึ่ง"