วัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการเกิดมาเป็นมนุษย์ คือการทำพระนิพพานให้แจ้ง ไม่ว่าผู้ที่เกิดมานั้นจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม การทำพระนิพพานให้แจ้งเป็นเป้าหมายของทุกชีวิต โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ เพราะถ้าหากเรายังทำพระนิพพานให้แจ้งไม่ได้ ชีวิตก็จะต้องตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมเรื่อยไป อันตรายของชีวิตมักเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่รู้และไม่เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม จึงพลาดพลั้งกระทำความผิด ทำให้ต้องได้รับความทุกข์ทรมานในชีวิตทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
แม้เพศภาวะของคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนจะเอื้อต่อการประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับเพศสมณะซึ่งเปิดโอกาสให้ปฏิบัติธรรม ฝึกฝนอบรมตนเองอย่างเต็มที่ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งสามารถนำไปสู่การทำพระนิพพานให้แจ้งได้ง่ายกว่าเพศฆราวาส ซึ่งต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิต ทำให้มีเครื่องกังวลมากมาย เพศนักบวชจึงเป็นชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับผู้แสวงหาความสุขอันแท้จริง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กุลบุตรผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้เรียนรู้และปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อการทำพระนิพพานให้แจ้ง และนำหลักธรรมที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการพัฒนาตนเอง ครอบครัว และสังคม วัดพระธรรมกายจึงได้จัดให้มีการอุปสมบทหมู่ธรรมทายาทขึ้นนับตั้งแต่ปี 2515 โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการอบรมจากหลักสิบ เป็นหลักร้อย จนกระทั่งถึงหลักพันในปัจจุบัน และในปี พ.ศ. 2552 พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) จึงมีดำริให้วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกาย ได้ทำงานร่วมกับคณะกัลยาณมิตร พุทธบริษัทจากทุกตำบลทั่วประเทศ สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ชมรมพุทธศาสตร์สากล ในอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ จัดให้มีโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่ครั้งใหญ่ในระดับประเทศขึ้น โดยเปิดรับชายไทยผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนจากทุกตำบลมาเข้าร่วมอบรมที่วัดพระธรรมกาย และในครั้งต่อ ๆ มาจึงได้มีการเปิดอบรม ณ วัดที่เป็นศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศอีกด้วย การจัดอุปสมบทหมู่นั้นเป็นไปเพื่อให้กระแสธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แผ่คลุมทั่วผืนแผ่นดินไทย ช่วยดับร้อนให้ประเทศฝ่าภัยวิกฤติไปสู่ความเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองต่อไป พร้อมกับเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกตำบลทั่วประเทศได้ร่วมสั่งสมบุญบารมีในโครงการอุปสมบทหมู่และเป็นแบบอย่างอันดี เพื่อให้เกิดโครงการเช่นนี้ขึ้นทั่วประเทศไทย และเพื่อให้ผู้อุปสมบทได้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติธรรมอันเป็นหลักในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง สำหรับหลักสูตรการอบรมนั้นประกอบไปด้วยหัวข้อธรรมเรื่อง ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ศีล สมาธิ ปัญญา และวัฒนธรรมชาวพุทธ เป็นต้น ทั้งนี้ โครงการอุปสมบทหมู่ได้รับความเมตตาจากพระเถรานุเถระ เจ้าคณะ พระสังฆาธิการ จำนวนหลายท่านซึ่งได้รับเป็นที่ปรึกษาโครงการ พร้อมกับหมุนเวียนกันมาแสดงธรรมแก่ผู้เข้าอบรมด้วย อาทิเช่น ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ประธานที่ปรึกษาโครงการ) พระวิสุทธาธิบดี พระพรหมเวที พระพรหมวชิรญาณ พระพรหมโมลี พระพรหมสุธี พระวิสุทธิวงศาจารย์ พระพรหมจริยาจารย์ พระธรรมกิตติวงศ์ พระธรรมคุณาภรณ์ พระธรรมปิฎก และพระราชปริยัตยาภรณ์ เป็นต้น โครงการอุปสมบทหมู่ได้มีส่วนช่วยในการอบรมบ่มนิสัยชายไทยให้มีคุณธรรมและจริยธรรมสำหรับการดำเนินชีวิต ท่านที่ยังมีภาระทางโลกก็สามารถลาสิกขาเพื่อเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี และถ่ายทอดธรรมะที่ได้เรียนมาให้แก่ลูกหลานพร้อมทั้งญาติมิตร ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรม นอกจากนี้ผู้เข้ารับการอบรมที่มีความปรารถนาจะครองเพศบรรพชิตต่อไป ก็จะได้ช่วยสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาและเทศน์สอนให้ประชาชนเข้าใจธรรมะแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
โครงการอุปสมบทหมู่ 7,000 รูป 7,000 ตำบล
ระยะเวลาอบรมและอุปสมบท 22 สิงหาคม – 11 กันยายน 2552 สถานที่อบรม วัดพระธรรมกาย จ. ปทุมธานี
โครงการอุปสมบทหมู่ 100,000 รูป ครั้งที่หนึ่ง
ระยะเวลาอบรม 19 มกราคม – 8 มีนาคม 2553 สถานที่อบรม วัดพระธรรมกาย และวัดที่เป็นศูนย์อบรมทั่วประเทศ
โครงการอุปสมบทหมู่ 100,000 รูป รุ่นเข้าพรรษา
ระยะเวลาการอบรม 9 กรกฎาคม – 8 พฤศจิกายน 2553 สถานที่อบรม วัดพระธรรมกาย และวัดที่เป็นศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ
